โฆษณา PPC (Pay-Per-Click) ไม่ใช่เรื่องใหม่ในปี 2025 แล้วเนื่องจากโฆษณาออนไลน์บนทุกแพลตฟอร์มก็ล้วนเป็นระบบ PPC แทบทั้งนั้น แต่สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับ PPC ในยุคนี้คือความสามารถในการเรียนรู้ของ AI ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโฆษณาให้ตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งความน่าตื่นเต้นในฐานะที่ Pacy Media เป็นเอเจนซี่ผู้ให้บริการลงโฆษณา คือการ Train ระบบ Machine Learning ของแต่ละ PPC Platform และสอนให้ระบบเรียนรู้ที่จะทำงานได้ออกมาดีที่สุด เพราะแต่ละแคมเปญนั้นมีเป้าหมาย และมีหลายปัจจัยทางธุรกิจที่ต่างกัน การวางแผน และการวางกลยุทธ์ที่จะสอนให้ AI เรียนรู้ก็ต่างกันไปด้วย
ทั้งนี้สำหรับคนที่ยังใหม่เกี่ยวกับ PPC บทความนี้เราเลยอยากมาสรุปกันอีกครั้งว่าในปี 2025 มีโฆษณา PPC แพลตฟอร์มไหนบ้างที่ได้รับความนิยมและตอบสนองได้ดีต่อแคมเปญการตลาดออนไลน์
PPC คืออะไร
โฆษณา PPC คือ การลงโฆษณาที่จะถูกเก็บค่าใช้จ่ายตามจำนวนคลิก ย่อมาจาก Pay Per Click เช่น ถ้าวันนี้มีคนคลิกโฆษณา 10 ครั้ง โดยคลิกละ 5 บาท วันนี้ก็จะเสียค่าโฆษณา 50 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายต่อการคลิก 1 ครั้ง เราเรียกว่า CPC (Cost Per Click)
แพลตฟอร์มโฆษณาที่เราคุ้นเคยกันในวันนี้ส่วนใหญ่ก็จะงานด้วยระบบแบบ PPC ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Google Ads, Facebook Ads, Tiktok Ads และ Line Ads
ทำไม PPC ถึงสำคัญในปี 2025
ในปี 2025 แพลตฟอร์มโฆษณาต่าง ๆ ได้พัฒนาไปอย่างมาก ระบบ AI และ Machine Learning ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณา ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าได้อย่างแม่นยำขึ้น การทำโฆษณา PPC จึงกลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ และที่สำคัญ การทำความเข้าใจระบบ AI และ Machine Learning ก็เป็นสิ่งที่ผู้ลงโฆษณาต้องใส่ใจในรายละเอียดมากยิ่งขึ้นไปอีก
คุณอาจคิดว่าถ้ามี AI มาทำงานในระบบโฆษณาอาจทำให้คนที่ดูแลแคมเปญโฆษณาทำงานน้อยลง และ Optimize น้อยลง แต่จริง ๆ แล้วในหน้างานนั้นยังมีอีกหลายจุดที่ต้องทำและต้องคิดเพิ่ม เพราะถ้าปล่อยให้ AI ทำงานอย่างเดียวโดยไม่มีการวางแผนการสอน ไม่เก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ ไม่ Optimize หรือการตีกรอบให้เก็บข้อมูลตรงจุด ผลโฆษณาก็อาจออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร
แพลตฟอร์มโฆษณา PPC ที่ได้รับความนิยมในปี 2025
สำหรับใครที่ยังใหม่กับแพลตฟอร์ม PPC บทความนี้เราจะมาสรุปให้ว่ามีแพลตฟอร์มไหนบ้างที่น่าสนในในปี 2025 และแต่ละช่องทางมีจุดเด่นอย่างไรบ้าง
1. Google Ads
Google Ads ยังคงเป็นแพลตฟอร์มโฆษณา PPC อันดับหนึ่งของโลก โดยมีโฆษณาหลายรูปแบบที่ช่วยเสริมกลยุทธ์ของแต่ละธุรกิจในการเพิ่มยอดขายได้ ไม่ว่าจะเป็น
- Search Ads: โฆษณาค้นหา
- Display Ads: โฆษณาแบนเนอร์
- YouTube Ads: โฆษณาบนช่องทาง YouTube
- Shopping Ads: โฆษณาบนหน้าค้นหาแบบ Shopping สำหรับเว็บไซต์ E-commerce
- Gmail: โฆษณาบน Gmail
- Performance Max: โฆษณาที่จะไปขึ้นบนทุก Placement ที่ Google มี
จากที่ทางบริษัทของเรารับทำ Google Ads มา เห็นได้ชัดเจนว่า Search Ads (SEM) คือช่องทางหลักที่สามารถตอบโจทย์ธุรกิจได้ดี เพราะคนที่เข้ามาค้นหาล้วนมีความต้องการและสนใจในเรื่องนั้นๆ แล้ว ซึ่งการทำ Search Ads ควบคู่กับ SEO (Organic Search) กับโฆษณารูปแบบอื่นๆ ของ Google เช่น Display Ads (GDN) และ Shopping Ads ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญให้ดียิ่งขึ้น
2. Facebook Ads
Facebook Ads และ Instagram Ads เป็นอีกช่องทางยอดนิยมสำหรับการทำ Social Media Marketing ด้วยระบบโฆษณาที่มีการพัฒนาประสิทธิภาพในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการนำ AI มาหากลุ่มเป้าหมาย รวมถึงขยายกลุ่มเป้าหมาย
ซึ่ง Facebook เองก็มีระบบโฆษณาแบบไดนามิก หรือตอนนี้เรียกว่า Advantage+ ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ Machine Learning โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็น E-commerce ก็สามารถใช้ Advantage+ Catalog Ads ได้ เพียงแค่เพิ่มสินค้าเข้าไปในระบบอย่างน้อย 20 รายการ เพื่อให้ระบบทำการเรียนรู้แล้วเลือกสินค้าที่น่าจะ Perform ได้ดีไปแสดงผลแบบ Personalized

รูปแบบวัตถุประสงค์โฆษณา (Objective) ที่ได้รับความนิยมบน Facebook Ads เช่น
- Awareness
- Traffic
- Engagement
- Inbox
- Lead
- Sales
ซึ่งการเลือกวัตถุประสงค์ในการลงโฆษณาแต่ละแคมเปญก็ต้องพิจารณาด้วยว่าเป้าหมายที่ต้องการจริงๆ ของแคมเปญนั้นคืออะไร และจะใช้ตัวเลขไหนในการวัดผล ซึ่งในขั้นตอนการลงโฆษณาก็ต้องมีการมอนิเตอร์ และ Optimize อยู่เป็นประจำ
3. TikTok Ads
TikTok เป็นอีกช่องทางวิดีโอสั้น หรือ Short Form Video ที่ได้รับความนิยมมาก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าการทำการตลาดในรูปแบบนี้สามารถตอบสนองกับเป้าหมายของแบรนด์ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นการสร้าง Awareness จากการรีวิว หรือการสร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจและเกิดการแชร์ ไปจนถึงการซื้อสินค้า เนื่องจากตอนนี้มี TikTok Shop ที่สามารถเชื่อมคอนเทนต์ไปยังสินค้าได้เลย ถือว่าเป็นอีกแพลตฟอร์มโฆษณา PPC ที่น่าสนใจมาก
บางธุรกิจที่อาจไม่สามารถวัดผลจากการซื้อสินค้าได้ทันที เช่น ธุรกิจที่ต้องการกระตุ้นให้คนเข้ามาที่หน้าร้าน หรือการสร้างการรับรู้ในสินค้าหรือบริการใหม่ๆ อย่างการเปิดตัวรถยนต์ EV รุ่นใหม่ ก็ยังสามารถสร้างกลยุทธ์การตลาดผ่าน Short Video บน TikTok ได้เช่นกัน
4. Line Ads Platform
โฆษณา Line Ads Platform เป็นอีกหนึ่งช่องทางโฆษณาที่สำคัญสำหรับธุรกิจในไทย ซึ่งจำเป็นต้องมี LINE OA (Official Account) ก่อนถึงจะสามารถดึงมาลงโฆษณาได้ ซึ่งโฆษณาก็จะไปขึ้งในส่วนต่างๆ ของ Line ไม่ว่าจะเป็น
- Line Home Tab
- Line Chat List
- Line Voom
- Line Today
- Line Wallet
- Line OpenChat
- Line Album

การวัดผลของโฆษณาผ่านทาง Line ที่ต่างจากช่องทางอื่นคือการโฆษณาเพื่อเพิ่มจำนวนการเพิ่มเพื่อนบน Line OA ดังนั้นถ้าจุดประสงค์ของธุรกิจคือการสร้างการรับรู้และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายโดยสามารถให้คลิกไปคุยต่อใน Line OA ได้แบบง่ายๆ พร้อมจำนวน Friends ที่เพิ่มขึ้น โฆษณา Line Ads อาจเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจในปี 2025
5. YouTube Ads
อย่างที่เกริ่นไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า YouTube Ads เป็นแพลตฟอร์มที่อยู่ในระบบของ Google Ads แต่ขอแตกออกมาเป็นอีกหนึ่งช่องทาง PPC เพราะมีรายละเอียดเพิ่มเติมที่ทาง Pacy Media อยากจะพูดถึง
ระบบโฆษณาของ YouTube หลักๆ จะเน้นที่การโฆษณาแบบ In-stream เช่น โฆษณาวิดีโอที่ขั้นระหว่างเราดูวิดีโอหลักอยู่ แต่ก็ยังมีรูปแบบโฆษณาอื่นๆ ที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น Video Search หรือ Discovery ซึ่งทาง Pacy Media เองก็จะต้องดูก่อนว่าเป้าหมายของธุรกิจลูกค้าคืออะไร และควรลงโฆษณาในรูปแบบไหน
โฆษณา In-stream ของ YouTube หลักๆ มี 2 ประเภท คือ Skippable (กดข้ามได้หลังจาก 5 วินาที) และ Non-skippable (กดข้ามไม่ได้) ซึ่งโฆษณาแบบ Skippable จะวัดผลเป็นยอดวิว หรือการรับชม ในขณะที่ Non-skippable จะนับเป็นจำนวนการดเข้าถึง หรือ Impressions
ข้อดีของ PPC ที่ธุรกิจไม่ควรมองข้าม
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ สามารถกำหนด Demographic, พฤติกรรม และความสนใจของผู้ใช้งานได้
- เห็นผลลัพธ์ได้รวดเร็ว โฆษณา PPC สามารถสร้าง Traffic และวัดผลยอดขายได้ทันที
- ควบคุมงบประมาณได้ กำหนดงบได้ค่อนข้างยืดหยุ่น สามารถตั้งงบต่อวัน หรือต่อเดือน
- วัดผลได้อย่างชัดเจน สามารถติดตาม ROI, CTR Conversion และ Conversion Rate เพื่อปรับกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
- Optimize และ ปรับแต่งแคมเปญได้ตลอดเวลา สามารถปรับเปลี่ยนข้อความโฆษณา กลุ่มเป้าหมาย หรือกลยุทธ์ได้อย่างรวดเร็วให้เข้ากับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
- เพิ่มการรับรู้แบรนด์และสร้างโอกาสในการขายใหม่ ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
- สนับสนุนกลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพ SEO และ Social Media Content Marketing
แชร์ความรู้นี้บน Social Media